#มือใหม่เริ่มลงทุน
#วางแผนการเงิน

ปีทองหุ้นเวียดนาม 2567 ลงทุนอย่างไร ไม่กังวลเรื่องภาษี

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
2,278 views

"ลงทุนในเวีดยนาม"
ถ้าพูดถึงประเด็นนี้ในโลกการลงทุนขึ้นมา เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองไปในทางบวก
โดยเฉพาะช่วง 3-4 ปีแล้ว เรียกได้ว่า "ร้อนแรง" เป็นอย่างมาก และได้รับการยอมรับว่าเป็นการลงทุนแนว Value Investment ที่หุ้นราคาไม่แพงและพร้อมจะเติบโตต่อไปได้ในอนาคต
แต่หลังจากช่วงโควิดที่ผ่านมา หรือ 1-2 ปีมานี้ ความร้อนแรงค่อยๆลดลงอย่างเห็นได้ชัด 
อาจจะเป็นเรื่องของประเด็นภาคอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม เศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตได้ต่ำเป้าที่นักลงทุนวาดไว้
และเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ไปอยู่ในตราสารหนี้ที่มีความเสี่้ยงต่ำกว่า
ส่งผลให้ตลาดหุ้นไม่ได้ Outperform เท่าไรนัก

 

ในปี 2566 ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามมีการเติบโตที่ชะลอตัวลง 
โดยสื่ออย่าง Bloomberg รายงานว่า GDP ในปี 66 เวียดนามมีแนวโน้มโตราว 4.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งน้อยกว่าปี 65 ที่ GDP โตราว 8.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยสาเหตุมาจากภาคการส่งออก (สัดส่วนราว 93% ของ GDP) ที่หดตัวในช่วงครึ่งปีแรก
และยอดการเติบโตสินเชื่อที่ยังคงอ่อนแอ ส่งผลให้ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยนโยบายถึง 4 ครั้ง ครั้งละ 0.5% (ปัจจุบันอยู่ที่ 4.5%) ในช่วงครึ่งปีแรก
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 4.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนปัญหาในภาคอสังหาฯ เริ่มมีทิศทางดีขึ้น หลังรัฐบาลได้เร่งแก้ไขกฎหมายเพื่อขจัดปัญหาคอขวดในภาคอสังหาฯ รวมถึงได้ออกมาตรการณ์ยืดระยะเวลาชำระหนี้เพื่อช่วยให้บริษัทอสังหาฯ มีสภาพคล่องสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไปได้

แต่ถ้าเราพิจารณาในปี 2567 จะพบว่ามีปัจจัยบวกค่อนข้างมาก
และอาจจะกลายเป็นทองของการลงทุนในหุ้นเวียดนามก็เป็นได้ 
นักวิเคราะห์จาก Bloomberg แสดงความคิดเห็น 4 ข้อถึงปัจจัยบวกในเวียดนาม ประกอบไปด้วย
1. การการยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น 
2. การใช้นโยบายของรัฐบาลที่ยังคงผ่อนคลาย หลังเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย
3. แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังเวียดนาม
4. การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว (สัดส่วนราว 10% ของ GDP) โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของเวียดนามเติบโตดีขึ้นมาก
โดยรัฐบาลตั้งเป้าไว้ 8 ล้านคน แต่กลับมีนักท่องเที่ยวมากถึง 11 ล้านคน

 

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง มองว่า ตลาดหุ้นเวียดนามในปี 2567 
จะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 หลังค่าเงินดองที่อ่อนค่าได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว 
และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเวียดนามจะมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ราว 5.3% ต่ำสุดในรอบ 1 ปี


 

พูดง่ายๆ คือ ตลาดหุ้นเวียดนามน่าลงทุนเป็นอย่างมาก ... แต่
ประเด็นสำคัญ คือ เมื่อไม่นานมานี้กรมสรรพากร มีการประกาศออกมาแล้วว่านักลงทุนที่ลงทุนหุ้นต่างประเทศ
จะต้องเสียภาษีตามอัตราบุคคลธรรมดา ซึ่งอาจจะเสียภาษีสูงสุดถึง 35%
คำถาม คือ ถ้าเราอยากลงทุนหุ้นเวียดนาม และอยากจัดการบริหารภาษีไปด้วย เราจะมีวิธีการอย่างไร ? 
คำตอบ คือ การลงทุนใน DR ที่ลงทุนในเวียดนาม ซึ่งในตลาดหุ้นไทยจะมี DR อยู่ 2 ตัว คึอ E1VFVN3001 และ FUEVFVND01


E1VFVN3001
DR ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงคือ DCVFMVN30 ETF ที่อิงดัชนี VN 30 ในเวียดนาม หุ้นชั้นนำ 30 ตัว (คล้ายดัชนี SET50 ของไทย) เป็นดัชนีที่นิยมในการใช้เป็นตัวแทนของหุ้นเวียดนาม เนื่องจากมูลค่าตลาดของหุ้นในดัชนีมีสัดส่วนรวมกันมากกว่า 60% ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม E1VFVN3001 ได้ที่ : www.bualuang.co.th/e1vfvn3001

FUEVFVND01
DR ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิง คือ DCVFMVN DIAMOND ETF ที่อิงดัชนี VN Diamond ในเวียดนาม เป็นดัชนีที่ถูกจัดทำขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ และออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งรวมถึงนักลงทุนไทยที่ต้องการลงทุนในหุ้นเวียดนามแต่ติดข้อจำกัด Foreign Ownership Limit (FOL) โดยไม่ต้องซื้อหุ้นที่ราคาพรีเมียม
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม FUEVFVND ได้ที่ : https://www.bualuang.co.th/content/718-.html


เวียดนาม อาจจะกลับมาเป็นปีทองของการลงทุนก็เป็นไปได้ในปี 2567 
แต่ประเด็นเรื่องการบริหารภาษี ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ถ้าเรารู้จักเครื่องมือที่เรียกว่า DR 
จะช่วยสร้างผลตอบแทนอ้างอิงจากการลงทุนในเวียดนาม พร้อมทั้งบริหารภาษีไปด้วยในเวลาเดียวกันครับ ...
 


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง