#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

เจาะสาเหตุต่างชาติขายหุ้นไทย ทำไมถึงขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ?

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
1,707 views

ถ้าเราติดตามการซื้อขายของนักลงทุนในช่วง 5 วันทำการย้อนหลัง จะพบว่า ...
วันที่ 15 มกราคม นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 471 ล้านบาท
วันที่ 16 มกราคม นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 837 ล้านบาท
วันที่ 17 มกราคม นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 5.74 พันล้านบาท
วันที่ 18 มกราคม นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 2.65 พันล้านบาท
วันที่ 19 มกราคม นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 1.23 พันล้านบาท
เรียกได้ว่าขายกันอย่างต่อเนื่อง
และถ้าเราดูตั้งแต่ต้นปี พบว่านักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิไปแล้วกว่า 17.26 พันล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยเป็นผู้ซื้อสุทธิ 19.89 พันล้านบาท
ยังไม่พูดถึงปี 2566 ที่นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยกว่า 9.75 แสนล้านบาท

คำถาม คือ ทำไมนักลงทุนต่างชาติถึงขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ? 
คำตอบสั้นๆที่พอจะบอกได้ คือ แนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอของประเทศไทยหลังสิ้นสุดสถานการณ์โควิด-19 
และมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียน

 

แต่ถ้าจะให้อธิบายยาวๆ น่าจะประกอบไปด้วย 2 เหตุผลด้วยกันคือ 
1. แนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอของประเทศไทย
Bloomberg consensus คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะรายงานการเติบโตของกำไรสุทธิ (CAGR จากปี 2562-67) ที่ 4.39% 
เทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียนที่ 10.39%

 

2. SET Index มี Valuation ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน
ตลาดหุ้นไทย ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E Ratio ปี 2567 ที่ 14.35 เท่า ยังค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียน
ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตระดับเดียวกันหรือสูงกว่า เช่น 
อินโดนีเซีย P/E Ratio 13.68 เท่า
มาเลเซีย P/E Ratio 13.37 เท่า
ฟิลิปปินส์ P/E Ratio 11.42 เท่า
และเวียดนาม P/E Ratio 9.97 เท่า

 

 

สอดคล้องกับความเห็นบทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย ที่มองว่า 
สาเหตุหลักที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยมาขากการเติบโตของกำไรสุทธิที่ขาดหายไป 
Bloomberg consensus คาดว่า market EPS ของประเทศไทยจะอยู่ที่ 88 บาท ในปี 2556 
และ 85 บาท ในปี 2566 
พูดง่ายๆ คือ ประเทศไทย "ไม่มีการเติบโต" เลย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

 

ขณะที่ SET Index เคลื่อนไหวออกด้านข้างอยู่ระหว่าง 1,000-1,800 จุด ในช่วง 10 ปีมานี้ เทียบกับระดับปัจจุบันที่ 1,380 จุด 
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยและลงทุนในตลาดประเทศอื่นๆ ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าเพื่อจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า 
ฝ่ายวิจัยเชื่อ กลงทุนต่างชาติจะยังเทขายหุ้นไทยในช่วงครึ่งแรกปีนี้จาก downside ต่อกำไรสุทธิปี 2567
ผลจากสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลง การบริโภคที่อ่อนแอ 
จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้าและรัฐบาลไม่สามารถออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามที่คาดหวัง ...

ฝ่ายวิจัย มองว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดในช่วงครึ่งหลังปีนี้ "จะดีกว่า" ในช่วงครึ่งปีแรก
เนื่องจากคาดว่ารัฐบาลจะผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2567 และ 
ฝ่ายวิจัยคาดว่านักลงทุนต่างชาติจะหยุดทเขายและอาจเริ่มกลับมาสะสมหุ้นไทยเมื่อ EPS (กำไรต่อหุ้น) เริ่มฟื้นตัว
ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาก่อนในปี 2559 และ 2565 เมื่อ EPS ฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่ง

 

คำถาม ต่อมาคือ แล้วเราในฐานะนักลงทุนรายย่อย จะเลือกปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร
คำตอบ คือ ลงทุนในหุ้น หรือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตด้านโครงสร้างและปลอดภัยจากการเทขายจากต่างชาติ
เช่น กลุ่มท่องเที่ยว การแพทย์ นิคมอุตสาหกรรม และอิเล็กทรอนิกส์


โดยสรุป นักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นไทยต่อเนื่อง
เมื่อหุ้นไทยโดนต่างชาติขาย ก็น่าจะขึ้นยาก และเป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นไทยยัง Underperform ต่อไป
สิ่งที่เราพอจะคาดหวังได้ คือ การฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
ถ้าเศรษฐกิจไทยเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น บริษัทจดทะเบียนมากขึ้น เราน่าจะเห็นนักลงทุนต่างชาติ "หยุดขาย" ในครึ่งปีหลัง
แต่สำหรับครึ่งปีแรก ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายของตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างมาก

------------------------------------------------------------------------------
Reference
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง