ช่วงนี้เมื่อ 3 ปีก่อน OR จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 11 ก.พ. 64 หลังนำหุ้นเสนอขาย IPO แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ที่ราคา 18 บาท
ผมยังจำบรรยากาศความคึก ที่ประชาชนแห่จองล้นหลาม
ใช้วิธี small lot first กระจายหุ้น โดยเฉลี่ยได้รับจัดสรรคนละ 4,400 หุ้น
มีคนถือหุ้นในช่วงแรกมากกว่า 5 แสนราย ถ้าประชุมผถห.แล้วมากันครบ สนามแอนฟิลด์ยังไม่พอรองรับ
เข้าตลาดมาวันแรก ตรุษจีนพอดี เคาะซื้อขายกันสนั่นมันมากๆ
วันแรกราคาพุ่งขึ้นไปปิดที่ 29.25 บาท สูงกว่าจอง 11.25 บาท หรือสูงกว่าจอง 62.50%
และปรับตัวขึ้นไปสูงสุดทะลุ 30 บาทในอีกไม่กี่สัปดาห์ ประทับใจมาก ได้รับแจกอั่งเปากันถ้วนหน้า
นี่คือพระเอกขี่ม้าขาวมาปลุกให้ตลาดหุ้นไทยคึกคักช่วงนึงเลย
หลังจากนั้น ราคาหุ้นก็ค่อยๆหมดแรง 30 กว่า มาที่ 20 กว่า
แล้วเวลาผ่านไป ราคาก็ลงมาเทรดที่ IPO 18 บาทนั่นแล
ในเชิงธุรกิจ OR ประกาศเสมอมาเรื่องรายได้จาก non oil
แต่ต้องยอมรับว่า รายได้และกำไรส่วนใหญ่ก็มาจากธุรกิจค้าน้ำมันนั่นแหละ
และตลอดสามปีที่ผ่านมา การ M&A ธุรกิจ F&B อาหารและเครื่องดื่ม ยังไม่มีดีลที่มีนัยยะสำคัญจริงๆ ต่อรายได้ระดับปีละ 8 แสนล้าน
แถมสองปีมานี้ เจอนโยบายคุณขอมาของรัฐ คุมราคาค้าปลีกน้ำมัน ทั้งดีเซล เบนซิน ก็ยังไม่จบนะ เหนื่อยอยู่ สู้ๆนะ
นักลงทุนที่ถือหุ้น OR ที่ตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยขาย เห็นกำไรแบบเขียวเข้มมาแล้ว กระทั่งเคยต่ำจอง
และมาอยู่แถวราคาIPO ทุกวันนี้ ก็ให้กำลังใจกันครับ พื้นฐานไม่ได้แย่ แต่การเติบโตที่ผ่านมาดูธรรมดาเกินไป
ธุรกิจมีความเสี่ยงหลายอย่าง เงินปันผลถือว่าไม่สูงนะ 2% กว่าๆ
คหสต. เชื่อว่า ตัวหุ้นผ่านหนังชีวิตหนักๆมาเยอะพอสมควร
ราคาปัจจุบันนอกจากสมเหตุสมผลแบบไม่ถูกไม่แพงแล้ว ราคาIPOเหมือนเป็นแนวจิตวิทยา ต่ำลงไปก็เอาขึ้นมา สูงไปก็ลงมาใหม่
เทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่พื้นฐานดี ผ่านปีชงมา แล้วราคาลงมาถูกเหมือนกัน ผมคิดว่ามีที่น่าสนใจกว่าอ่ะนะครับ