หลายๆครั้งเรามักจะเจอกับ "กลโกง" ทางการลงทุนหลายรูปแบบ
แต่วิธีหนึ่งที่คนนิยมใช้กันมาก และใช้สื่อโซเชียลในการช่วยกระจายข่าว คือ วิธีที่เรียกว่า Pump And Dump
Pump And Dump คือการ "ปั่นราคา" ของอะไรสักอย่าง
ซึ่งสิ่งนั้นอาจจะไม่มีมูลค่าก็ได้ หรืออาจจะมีแต่เมื่อเทียบกับมูลค่าแล้วถือว่ายังห่างไกลกับความเป็นจริงอยู่มาก
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น เหรียญคริปโตบางประเภทที่ล่มสลายไป
หรือแม้กระทั่งหุ้นเล็กๆบางตัวที่มีสตอรี่สวยหรู แต่ความเป็นจริงแล้วกลับไม่มีอะไรเลย
เมื่อหุ้นถูกลากไปถึงระดับหนึ่ง เจ้ามือก็เทขายหุ้นลงมา รายย่อยก็ติดดอยบาดเจ็บจากการขาดทุนอย่างหนัก
โดยส่วนใหญ่ หุ้นที่ถูกนำมา Pump And Dump จะเป็นหุ้นที่มีสตอรี่ที่ดี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
หรือการเข้าไปลงทุนในเมกะเทรนด์บางอย่างที่นักลงทุนให้ความสนใจ
ผู้บริหารมักจะออกสื่อ แสดงวิสัยทัศน์ว่ามีความสามารถ กิจการแข็งแกร่ง และธุรกิจเข้ามาแข่งขันได้ยาก
พร้อมๆกับราคาหุ้นที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง บวกกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
ไม่ใช่แค่นักลงทุนรายย่อยอย่างเดียว แต่เหตุการณ์นี้อาจจะทำให้นักลงทุนสถาบันหรือกองทุนเข้าไปซื้อหุ้นด้วยเหมือนกัน
ราคาหุ้นจึงพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากนักลงทุนสถาบันและกองทุนที่เข้าไปซื้อ (ประกอบกับการทำราคาของเจ้ามือ)
แต่หุ้นจะขึ้นไปอย่างเดียวแบบไม่สอดคล้องกับพื้นฐานไม่ได้
หลายๆครั้ง เรามักจะได้ยินเรื่องของการ "ตกแต่งบัญชี" เพื่อให้ผลประกอบการดูมีการเติบโตสอดคล้องกับราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น
เมื่อผลประกอบการดี นักลงทุนก็ยิ่งเชื่อ ก็ยิ่งซื้อราคาหุ้นก็ยิ่งสูง (เจ้ามือเริ่มเทขาย)
ราคาหุ้นเริ่มลดลง แต่นักลงทุนยังเชื่อว่าพื้นฐานหุ้นยังดีอยู่ ก็เลยเข้าไปซื้อเพิ่ม (เพราะเชื่อว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี กิจการมีการเติบโต)
แต่หุ้นก็ยังลงอย่างต่อเนื่อง เพราะเจ้ามือเทขาย
สุดท้ายความจริงก็ปรากฏว่าบริษัทเหล่านี้ไม่มีอะไรเลย และยังมีการตกแต่งบัญชีอีกด้วย
บางบริษัทขาดทุนล้มละลาย ตลาดหลักทรัพย์ห้ามซื้อขาย มูลค่าหุ้นกลายเป็นศูนย์ ในท้ายที่สุด
โดยสรุป กลยุทธ์ Pump And Dump คือการหลอกนักลงทุนส่วนใหญ่ให้เชื่อว่าสิ่งนั้นมีมูลค่าจริงๆ
โดยเจ้ามือจะทำการซื้อขายกันเองเพื่อดันราคาไปให้สูงๆ แล้วอาจจะปล่อยข่าวว่าบริษัท (หรือเหรียญ) มีสตอรี่ที่สวยหรู
นักลงทุนเห็นแบบนั้น ก็ยิ่งเชื่อเพราะราคาขึ้นทุกวัน ก็กลัวจะตกรถเลยซื้อตาม
เมื่อซื้อตามไปจนสูงระดับหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่รายใหญ่จะเทขายลงมา ณ จุดที่เราซื้อก็ถือว่าเป็น "ยอดดอย" พอดี
คนที่มีหุ้นจำนวนมาก ก็กระหน่ำเทขายอย่างรวดเร็ว ในราคาสูงๆ จนกระทั่งคนที่ซื้อทีหลังก็ขาดทุนไปตามๆกัน
ดังนั้น ก่อนจะลงทุนทุกครั้ง นักลงทุนจำเป็นจะต้องศึกษาการลงทุนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
ผสมกับการดูชาร์ตสินทรัพย์ทุกครั้ง เพื่อสอดส่องดูว่าราคาขึ้นมาจากตรงไหน เริ่มจากตรงไหน หรือขึ้นมาแล้วมากเท่าไรในเวลาไม่นาน
ถ้าขึ้นมาเร็วและแรงในระยะเวลาอันสั้น การลงทุนนั้นก็อาจจะดูเสี่ยงเกินไปถึงแม้มันน่าดึงดูดให้ลงทุน
แต่ถ้าเราสามารถควบคุมไม่ให้เกิดความโลภได้ เราก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อในกลยุทธ์ Pump And Dump อย่างแน่นอนครับ ...