TNDT พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ! จากธุรกิจตรวจสอบ “แต่ไม่ทำลาย” สู่ธุรกิจเครื่องดื่ม
TNDT หุ้นไทยแสนเก่าแก่อีก 1 ตัวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นที่เข้าตลาด mai นับตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเพิ่งจะครบรอบ 27 ปีของบริษัทอีกด้วย
ในขณะนั้น TNDT ได้เข้าสู่ตลาด mai ด้วยรูปแบบการ IPO ในราคา 3.10 บาท ที่ราคา Par 1 บาท แม้ว่าปัจจุบัน TNDT จะราคาหุ้นร่วงลงเหลือเพียง 0.27 บาท เนื่องด้วยตัวธุรกิจที่เข้าใจยากเพราะคงไม่มีใครเข้าใจว่า TNDT ที่ทำธุรกิจแบบตรวจสอบแต่ไม่ทำลาย เขากำลังทำอะไรกันแน่ ?
[ตรวจสอบ แต่ไม่ทำลาย]
แน่นอนว่าถ้าให้พูดถึงคำว่า “ตรวจสอบ แต่ไม่ทำลาย” หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า TNDT กำลังทำบริษัทที่รับตรวจสอบอายุของวัตถุโบราณหรือเปล่า แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น
เพราะ TNDT เป็นบริษัทที่ให้บริการตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อรองรับความปลอดภัยสำหรับการใช้งานต่อไปในอนาคต เช่น การตรวจสอบท่อส่งน้ำมัน ตรวจสอบท่อบนแท่นนอกชายฝั่ง เป็นต้น
ย้อนมาดูงบการเงินของ TNDT ย้อนหลัง 3 ปี
ปี 2564 รายได้ 325 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 26 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 252 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 55 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 314 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 366 ล้านบาท
6 เดือนแรกของปี 2567 รายได้ 141 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 6 ล้านบาท
หากมองในมุมของธุรกิจจะเห็นได้ว่า TNDT ก็เป็นธุรกิจที่น่าสนใจและมีโอกาสกอบโกยรายได้และกำไรมหาศาล แต่ในช่วงที่เกิดวิกฤติต่าง ๆ หลายบริษัทอาจกำลังเซฟต้นทุนหรือหันมาเกิดการจ้างงานภายในทำให้ TNDT ไม่ได้งานเพิ่มและรายได้เพิ่ม กลับซ้ำที่ Fixed Cost ที่ต้องจ่ายอาจเพิ่มขึ้นส่งผลให้ผลประกอบการหลายปีที่ผ่านมา “ขาดทุน”
จะเห็นได้ว่าแม้จะมีการขาดทุนมาตลอดหลายปี แต่ปี 2567 กลับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่น่าสนใจของ TNDT ว่าแต่จุดเปลี่ยนที่น่าสนใจนี้จะคืออะไร
วันนี้ Stock2morrow จะพาคุณมาทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กัน
[TNDT เปลี่ยนโฟกัสเป็นธุรกิจเครื่องดื่ม]
เมื่อไม่นานมานี้ TNDT ได้ประกาศพลิกโฉมบริษัทใหม่ด้วยการเปิดตัวธุรกิจเครื่องดื่มและการค้าครบวงจร โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง High Kick ที่จะเป็นหนึ่งในสินค้าเรือธงของบริษัทในอนาคต
ทั้งนี้ด้วยคอนเน็กชันที่มากมายของ TNDT ทำให้การขยายธุรกิจเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และมีพันธมิตรสินค้าจำนวนมากซึ่งครอบคลุมในทุกภูมิภาค ทำให้คาดว่าปี 2568 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างทันท่วงที
อีกทั้งบริษัทได้ร่วมมือกับ Exousia ที่จะร่วมกันทำการตลาดในรูปแบบใหม่ ๆ สร้างเนื้อหาทีน่าดึงดูด พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อส่งเสริมการตลาดผ่านแบรนด์ High Kick และผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ผ่านการ Sterilization ขึ้นสูง พร้อมช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อและรับสินค้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,857.97 ล้านบาท จากเดิม 489.32 ล้านบาท โดยเป็นการแบ่งขายแบบ PP ให้กับ New Edge Energy Opportunity Sub Fund กองทุนจากประเทศสิงคโปร์ในราคาหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นมูลค่า 78 ล้านบาท
และอีก 2,477.29 ล้านหุ้น ขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในราคา 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ที่หุ้นละ 0.26 บาท โดยเงินทุนมีวัตถุประสงค์ที่จะไปใช้ในการลงทุนผลิตภัณฑ์ตัวใหม่และธุรกิจตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซึ่งเรียกได้ว่าแตกต่างจากธุรกิจที่เคยทำมาอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงที่เรียกได้ว่า “หน้ามือเป็นหลังมือ” และมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นในอนาคต
ก็คงต้องมาติดตามกันว่า TNDT จะปังขึ้นกว่านี้ และกลับกลายมาเป็นหุ้นระดับ Top ในตลาด mai ได้หรือไม่ ?
#Stock2morrow #สื่อและสังคมของนักลงทุน #TNDT #SET #หุ้นไทย